วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

"Sapper" หน่วยกล้าตายที่ถูกลืม !! ..

รู้หรือไม่ ...

Sapper แปลตามศัพท์ภาษาอังกฤษว่า ทหารช่างที่มีความชำนาญในการทำลายป้อมค่ายและงานเกี่ยวกับการสร้างป้อมค่าย รวมไปถึงผู้ที่มีความชำนาญในการวางและเก็บกู้ทุ่นระเบิด



แซปเปอร์ที่ดังที่สุด เป็นคำที่ สหรัฐใช้เรียก หน่วยกล้าตายของเวียดนามเหนือ ในระหว่างสงครามเวียดนาม ที่สร้างความหวาดหวั่นให้แก่กองกำลังสหรัฐและพันธมิตรในสงครามเวียดนาม เรียกว่า ขนพองสยองเกล้าเพียงแค่ได้ยินหรือนึกถึงความบ้าบิ่นของหน่วยนี้ ก็ว่าได้

เวียดนามเหนือจัดตั้งหน่วยหัวหอกแซปเปอร์ขึ้นมาเพื่อเจาะทะลุทะลวงเปิดทาง การโจมตีและลดการสูญเสียของแก่กำลังหลัก

กุญแจสำคัญของหน่วยแซปเปอร์ คือ วัตถุระเบิดและการใช้วัตถุงาน หน่วยแซปเปอร์จึงได้รับการฝึกเป็นอย่างดีเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ไม่ว่าจะเป็น ของฝ่ายตนเองและข้าศึก วิธีการวางระเบิดต่อเป้าหมายต่างๆ การปลดและนำกลับมาใช้ของทุ่นระเบิดของข้าศึก



การฝึกของแซปเปอร์ไม่มีความแตกต่างจากหน่วยทหารทั่วไป แต่ การดำเนินกลยุทธ การปฏิบัติการ และวินัยของหน่วยแซปเปอร์ต่างหาก ที่ทำให้เกิดความแตกต่างจากหน่วยทั่วไป

กองทัพน้อยแซปเปอร์ เป็นหน่วยทหารช่างขนาดเล็กที่เคลื่อนที่อย่างเงียบกริบ ภารกิจหลัก คือ การทำลายกำลังของสหรัฐและพันธมิตรด้วยการปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งมักประกอบด้วย การทำลายเป้าหมาย การสังหารผู้บังคับบัญชาข้าศึก การก่อวินาศกรรม การลาดตะเวน การรบประชิด การซุ่มโจมตีและการเป็นหัวหอกในการเข้าตีเจาะ วิธีการแทรกซึมนี้ ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงยิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งสุดยอดอย่างหนึ่งที่มีแต่เฉพาะหน่วยแซปเปอร์



การแต่งกายของแซปเปอร์ มักจะมีแต่เพียงผ้าเตี่ยวหรือกางเกงขาสั้น และพรางตัวด้วยโคลน อุปกรณ์ประจำตัวอื่น ๆ จะประกอบด้วยปืนอัตโนมัติ คีมตัดลวด ดาบปลายปืน เหล็กแหลมขุดค้นทุ่นระเบิด ท่อนไม้ไผ่สำหรับยกลวดหนามและลวดสั้น ๆ จำนวนหนึ่งเพื่อปลดชนวนวัตถุระเบิด และในระหว่างการแทรกซึมอาจจะมีการปฏิบัติการลวงด้านอื่นเพื่อย้ายความสนใจของข้าศึกให้ออกจากการตรวจการต่อการแทรกซึมของแซปเปอร์

แต่ถ้าหน่วยนำของแซปเปอร์ไม่สามารถไปจัดการต่อข้าศึกได้ แซปเปอร์อาจจะถอนกำลัง หรือไม่ก็จะใช้กำลังที่เหลือบุกไปข้างหน้าโดยไม่แยแสต่อความสูญเสีย ความปลอดภัยหรือเส้นทางหนี จนกว่าภารกิจจะสำเร็จหรือมีคำสั่งให้ถอนตัว

การปฏิบัติการของแซปเปอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ

- การปฏิบัติการโจมตีต่อสถานทูตสหรัฐในกรุงไซง่อน เวียดนามใต้



ในการการปฏิบัติการรุกวันตรุษญวนของเวียดนามเหนือ แซปเปอร์จำนวน 19 คน จากกองพัน แซปเปอร์ ซี 10 ที่แทรกซึมเข้ามาอยู่ในไซ่ง่อนล่วงหน้า แซปเปอร์หน่วยนี้ได้รับคำสั่งเร่งด่วนให้ยึดสถานทูตสหรัฐ โดยให้ยึดไว้ให้ได้ 48 ชั่วโมงเพื่อรอกำลังส่วนใหญ่ที่รุกมาจากเวียดนามเหนือเดินทางมาสมทบ

วันที่ 31 มกราคม 2511 เวลา 02.45 น. รถบรรทุกแซปเปอร์ 19 คน พร้อมอาวุธครบมือ แต่งกายชุดสีดำ ผูกแขนด้วยผ้าสีแดง มาถึงหน้าสถานทูตสหรัฐ แล้วเปิดฉากการยิงด้วยปืนอาก้า และจรวดประทับบ่า ทหารสารวัตร 2 นายของสหรัฐทำการยิงตอบโต้และปิดประตู แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีได้ แซปเปอร์ระเบิดกำแพงของสถานทูตเป็นช่องขนาด 1 เมตรด้วยจรวดต่อสู้รถถัง จากนั้น 2 คนแรกของแซปเปอร์ที่คาดว่าเป็นหัวหน้าชื่อ เบ ทูเย็น และ อุท โน มุดเข้าไปในรูนั้นและยิงต่อสู้กับทหารสหรัฐ 2 นาย แต่ทั้ง 4 คนเสียชีวิตในการต่อสู้ระยะประชิดนั้น แซปเปอร์ที่เหลือแม้ว่าจะสูญเสียหัวหน้าหน่วยยังคงบุกต่อเข้าไปยังอาคารหลักของสถานทูต แต่ทหารสหรัฐสามารถตั้งหลักได้ประกอบกำลังเสริม ยิงต่อสู้และทำลายการโจมตีของแซปเปอร์ได้ในช่วงสายของวันเดียวกัน

ผลการปะทะ แซปเปอร์เสียชีวิต 17 คน ถูกจับเป็นเชลย 2 คน ทหารสหรัฐเสียชีวิต 5 นาย เวียดนามใต้เสียชีวิต 4 คน

- ยุทธการภูผาที

ในขณะที่การสู้รบในเวียดนามและการโหมทิ้งระเบิดโดยกองทัพอากาศสหรัฐต่อเป้าหมายทางทหารในเวียดนามเหนือ เวียดนามใต้และลาวกำลังดำเนินไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรง

ภูผาที หรือ LS-85 มีความสูงกว่า 5,000 ฟุต สหรัฐได้เลือกเอายอดเขาลูกนี้เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ที่ทันสมัยที่สุด ติดตั้งอุปกรณ์นำร่องในการทิ้งระเบิดของเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐ (Radar Bombing Control System) ชี้เป้าให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิดโดยนักบินไม่จำเป็นต้องมองเห็นเป้าด้วยสายตา และระบุเป้าหมายได้ในทุกสภาพอากาศ

ภูผาที ถือเป็นหัวใจของการปฏิบัติการทางอากาศในเวียดนามและลาว จึงถูกวางกำลังอารักขาไว้อย่างเข้มแข็งโดยทหารสหรัฐ ทหารไทย และม้ง

ด้วยเหตุนี้ทางเวียดนามเหนือได้มองเห็นอันตรายจากการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวบนภูผาทีและได้วางแผนเพื่อทำลายฐานเรด้าร์บนภูผาที

วันที่ 11 มีนาคม 2511 หน่วยแซปเปอร์ของเวียดนามเหนือ ประมาณ 30 คน บุกขึ้นไปสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิคของกองทัพอากาศสหรัฐเสียชีวิตประมาณ 20 นาย

ถึงแม้จะสามารถต้านการบุกและกวาดต้อนแซปเปอร์ลงเขาไปได้ แต่ก็พบเพียงรอยเลือดของแซปเปอร์เป็นหย่อมๆ แซปเปอร์ไม่ทิ้งผู้บาดเจ็บ หรือล้มตายไว้ที่นั่นเลย นับเป็นวินัยที่เคร่งครัดอย่างยิ่งยวด



แต่สิ่งที่น่าแปลกใจระคนสงสัยอย่างที่สุด คือ แซปเปอร์เหล่านั้น ปีนป่ายขึ้นไปได้อย่างไร เพราะภูผาที มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ยากที่จะขึ้นสู่ยอดเขาได้โดยง่าย

- การปฏิบัติการแทรกซึมสนามบินสหรัฐ ที่ จังหวัดอุบลราชธานี

สนามบินดังกล่าวใช้เป็นฐานบินในการขึ้นลงของเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินรบของสหรัฐที่โจมตีเวียดนามเหนือ ในช่วงสงครามเวียดนาม

แซปเปอร์พยายามเข้าแทรกซึมเข้าไป จำนวน 3 ครั้ง เมื่อ 28 กรกฎาคม 2512 , 12 มกราคม 2513 และ 4 มิถุนายน 2515 โดยหน่วยแซปเปอร์ดังกล่าว เป็นหน่วยขนาดเล็กที่ปฏิบัติการอิสระและคาดว่าเป็นคนเวียดนามเหนือที่อพยพมาอยู่ในไทยที่เดินทางไปฝึกที่เวียดนามเหนือแล้วแทรกซึมกลับผ่านเข้าไทยมาทางลาว

ผลการปฏิบัติภารกิจ แซปเปอร์ล้มเหลว และถูกสังหารจำนวน 4 คน และถูกยึดยุทโธปกรณ์ได้จำนวนหนึ่ง ส่วนฝ่ายสหรัฐสูญเสียสุนัขสงคราม 1 ตัว

ขอบคุณ atcloud.com และ pantip.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น