วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555



สงครามไทย-จีน




รู้หรือไม่ ...







ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากญี่ปุ่นยึดครองเมืองชายฝั่งของจีนส่วนใหญ่ได้แล้ว ต้องเจอกับปัญหาสงครามจรยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอังกฤษและอเมริกา(แอบ)ส่งอาวุธให้จีนผ่านทางอินโดจีน









แต่เนื่องจากญี่ปุ่นไม่อยากรบกับอเมริกาจึงต้องกัดฟันรบต่อไป จนกระทั่งอเมริกาประกาศบอยคอตญี่ปุ่น รวมทั้งสั่งปิดคลองปานามา ทำให้ญี่ปุ่นเหมือนถูกรัดคอ จึงต้องทำสงครามกับอเมริกา ทั้งๆที่ นายพล ฮิเดกิ โตโจ ผู้นำญี่ปุ่นตอนนั้นจะรู้ว่าด้วยทรัพยากรของญี่ปุ่นตอนนั้นทำสงครามได้อย่างมาก 2 ปี ญี่ปุ่นนำกำลังเข้ายึดเกาะแก่งต่างๆในมหาสมุทรแปซิฟิกได้รวดเร็วประดุจลมบ้าหมู เพื่อหาทรัพยากรมาเดินหน้าสงครามต่อให้ได้









ตอนนั้นพวกอเมริกาส่งอาวุธให้จีนผ่านอาณานิคมฝรั่งเศสในเวียตนาม ญี่ปุ่นจึงเข้ายึดเวียตนามก่อน แต่อเมริกายังดอดไปแอบส่งอาวุธให้จีนผ่านทางพม่าอีก ทำให้ญี่ปุ่นต้องหาทางยึดพม่าให้ได้ แต่การที่จะอ้อมประเทศไทยไปตีพม่าก็ดูจะสิ้นเปลืองเกินไป เพราะกำลังส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นก็มาขึ้นฝั่งรอที่เวียตนามแล้ว









ญี่ปุ่นจึงส่งกำลังขึ้นบกในไทยและบังคับให้ไทยเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น เพื่อเป้าหมาย คือ ต่อสู้กับอังกฤษ (เจ้าอาณานิคมพม่า) และไทยก็ตอบรับกับญี่ปุ่น

เมื่อเป็นพันธมิตรกัน ญี่ปุ่นจึงส่งกำลังบุกเข้าตีย่างกุ้งเมืองหลวงของพม่าทันที ส่วนกองทัพไทยตรงขึ้นเหนือเพื่อรบกับจีน!

ทำไมไทยได้รบกีบจีน ? เพราะภูมิภาคแถบนี้พวกฝรั่งไม่ชำนาญการรบจึงทำได้อย่างมาก คือ ติดอาวุธให้ชนกลุ่มน้อยที่นับถือคริสต์ให้สู้กับญี่ปุ่น ส่วนตัวกองทัพหลักถอยไปสมทบกันที่อินเดีย หลังญี่ปุ่นตีเมืองย่างกุ้งแตกอย่างรวดเร็ว พวกอังกฤษจึงส่งเมืองต่อให้จีน โดยกองพลที่ 93 และกองพลที่ 96 ต้องเข้ามาควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในรัฐฉานต่อจากอังกฤษ









เหตุการณ์ต่อไปนี้มาจากหนังสือเรื่อง ”ทหารเหลือใช้สงคราม” และจากปากคำ พระอธิการใหญ่ประจำเชียงตุง อายุ 86 ปี ในวันที่ 31/1/53









25 มกราคม 2485 ไทยประกาศสงครามกับพันธมิตร โดยอังกฤษรีบประกาศสงครามตอบกลับ แต่ประเทศอื่นๆกลับมีท่าทีไม่ตอบสนอง เพราะทราบว่าไทยกระทำเช่นนี้จากการถูกบังคับซึ่งเป็นสถานการณ์เดียวกับฮังการีที่ถูกเยอรมันบังคับ

9 มีนาคม 2485 ญี่ปุ่นยึดย่างกุ้งได้ ทหารอังกฤษถอนตัวจากพม่าในวันที่ 9 พฤษภาคม 2485 ทหารไทยรุกข้ามชายแดนไทย–พม่า และบุกอย่างต่อเนื่องไปจนถึง เมืองสิบสองปันนาของจีน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจในความเก่งกาจของทหารไทยที่ไม่มีใครคิดจะพูดถึง เริ่มต้นทหารช่างต้องตัดถนนอย่างยากลำบาก(เส้นทางที่ทหารช่างไทยทำไว้กลายเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางจากท่าขี้เหล็กถึงเมืองลา ตราบจนทุกวันนี้)

กระนั้นยังไม่สามารถใช้รถในการลำเลียงได้เพราะเป็นหล่มโคลนมาก ต้องใช้ ม้า วัวควาย ในการลำเลียง แต่วัวควายกลับติดหล่มจนล้มตายไปจำนวนมาก เลยต้องมาใช้ช้างลำเลียง ตลอดเวลาที่ทหารไทยรุกเข้าไปต้องพบการต่อต้านจากทหารจีนอย่างหนัก เรารุกผ่านท่าขี้เหล็ก ดอยเหมย ไปถึงเชียงตุงได้ในวันที่ 4 มิถุนายน 2485

เมื่อกองทัพไทยมาถึงเชียงตุงตอนแรก ชาวบ้านต่างเผาบ้านเรือนหนีไปอยู่ป่าหมด เพราะคิดว่าเป็นทหารญี่ปุ่น พอรู้ว่าเป็นทหารไทยก็ตีฆ้องร้องป่าวตะโกนดีใจ และรีบต้อนรับอย่างดี หาอาหารให้กินตามมีตามเกิดเพราะทหารจีนเผาเชียงตุงไปเกือบหมดทั้งเมือง เหลือแค่ตึก 3 หลัง พร้อมปล้นอาหารชาวบ้าน ส่วนอาหารที่ขนไปไม่ได้ก็เผาทิ้งไม่เหลือ แถมยังทำลายกระทั่งครกตำข้าวของชาวบ้านจนหมด









วันรุ่งขึ้น 5 มิถุนายน 2485 ทหารไทยเดินขบวนเข้าเชียงตุงอย่างเป็นทางการ ชาวบ้านที่หนีเข้าป่าไปกลับมารอต้อนรับทหารไทย โดยมีดอกไม้และธูปมอบให้ทหารไทยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เจ้าบุญวาศ ณ เข็มรัฐ ผู้ครองนครเชียงตุง ได้ออกมาต้อนรับทหารไทยและทำพิธีส่งเมืองให้ จอมพล ผิน ชุนหวัน

ตลอดเวลาที่ทหารไทยเข้ามาในเมืองเชียงตุงไม่ได้มีปฏิกิริยาดีใจไชโย โห่ร้องอะไร นอกจากความสงสารที่มีแก่ชนเชื้อชาติเดียวกัน พูดภาษาเดียวกันนับถือศาสนาเดียวกัน คือ คนไทยใหญ่ต้องล้มตายจากสงคราม และซากเมืองที่พังพินาศ นอกจากนั้นทหารไทยยังอ่อนล้าจากการสู้รบและโรคระบาด โดยเฉพาะมาลาเรียที่ทหาร 25% ต้องหมดสภาพในการสู้รบจากการติดเชื้อ เพื่อปล่อยข่าวลวง จอมพล ผิน ชุนหวัน ต้องประกาศว่ากองกำลังญี่ปุ่นจะมาสมทบอีกเร็วๆนี้ เพราะรู้กันว่า ทหารจีนกลัวทหารญี่ปุ่นและ ดูเหมือนได้ผล...









ทหารจีนถอยร่นไปเรื่อยๆทหารไทยตามตีอย่างไม่ลดละ สิ่งที่ยากลำบากกว่าการสู้รบ คือ การเดินทางที่ยากลำบากทหารจีนระเบิดสะพานทุกแห่งเพื่อสกัดการติดตาม แต่การสร้างสะพานขึ้นมาใหม่กลับลำบากยิ่งกว่า เพราะฐานสะพานที่อ่อนแอลง ทำให้ทหารช่างหลายคนต้องเสียชีวิตและพลัดตกลงไปในเหวและแม่น้ำ เวลาพักผ่อนของทหารก็ไม่เต็มที่เนื่องจากถูกรบกวนจาก ยุง ริ้น เลือด ไร









เมื่อทำการบุกต่อเนื่องจนสามารถครอบครองรัฐฉานได้ทั้งหมด ในเดือน มกราคม 2486 ไทยได้สถาปนาดินแดนแห่งนี้ใหม่ว่า สหรัฐไทยใหญ่ ธงไตรรงค์ของเราโบกสะบัดอยู่ที่เชียงตุงนาน 3 ปี เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดอันแสนสั้นที่เราคนไทยใหญ่ได้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีก ก่อนจะต้องแยกจากกันตราบจนทุกวันนี้




ขอบคุณ orthodox.exteen.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น