กระทรวงศึกษาธิการประกาศเลื่อนการส่งมอบเครื่องแท็บเล็ต ป.1 ล็อตแรก กว่า 40,000 เครื่อง ให้พื้นที่เขตการศึกษาต่าง ๆ อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากยังไม่ได้รับมอบเครื่องจากกระทรวงไอซีที ล่าสุดผลตรวจสอบคุณภาพด้านเทคนิค พบว่า มีตัวเครื่องแท็บเล็ต ป.1 ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่พอดีกับจำนวนที่กระทรวงไอซีทีกำหนดให้มีเครื่องเสียหายตามมาตรฐานได้ไม่เกิน 7 เครื่อง
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอซีที ระบุว่า ยังไม่รับทราบสรุปผลการสุ่มตรวจเครื่องแท็บเล็ต ป. 1 ล็อตแรก 60,000 เครื่องต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์พอดี ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุภัณฑ์ของไอซีทีเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากมีมาตรฐานการตรวจรับอยู่แล้ว
มีรายงานว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพแท็บเล็ต ป.1 ที่เจ้าหน้าที่บริษัท ทีโอที เข้ามาช่วยกระทรวงไอซีทีสุ่มตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิคเครื่องแท็บเล็ต 500 เครื่อง จากจำนวนที่ได้รับมอบล็อตแรกรวม 59,000 เครื่อง พบว่า มี 7 เครื่องคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น หน้าจอ มีระบบสัมผัส หรือ ทัชสกรีนช้า และ หน้าจอเกิดปัญหาติด ๆ ดับ ๆ
สำหรับข้อกำหนดมาตรฐานตามที่ ทีโออาร์ ระบุไว้ คือ การสุ่มตรวจจะสามารถมีเครื่องเสียได้ไม่เกิน 7 เครื่อง หากมากกว่านั้น กระทรวงไอซีทีมีสิทธิ์ส่งคืนเครื่องแท็บเล็ตทั้ง 60,000 เครื่องในล็อตแรกให้กับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป เพื่อนำไปปรับปรุง
และเป็นที่น่าสังเกตว่าการสุ่มตรวจครั้งนี้ ใช้เวลาเพียง 2 วัน คือ วันที่ 11 ก.ค. และ 12 ก.ค. เท่านั้น จากกำหนดเดิมที่ต้องใช้เวลา 5 วัน และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งรายงานสรุปผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการตรวจรับตังแต่วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตั้งข้อสังเกตว่า การร่นเวลาสุ่มตรวจสอบเครื่องจะส่งผลให้เกิดโอกาสที่เครื่องที่ไม่มีคุณภาพจะหลุดรอดไปถึงมือเด็ก ๆ ได้ง่ายขึ้น และหากเร่งรัดการแจกเครื่องแท็บเล็ต โดยไม่มีการตรวจแบบเข้มงวดจะส่งผลให้เกิดปัญหาค่าใช้จ่ายเพิ่มตามมาโดยเฉพาะการซ่อมบำรุง
โดยกระทรวงศึกษาธิการแจ้งเลื่อนส่งมอบเครื่องแท็บเล็ตล็อตแรก 45,000 เครื่องออกไปไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะส่งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ( 16 ก.ค.) ในจังหวัด กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น กำแพงเพชร และ กรุงเทพมหานคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น