วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555



กูรูฟันธง iPhone 5 หน้าจอใหญ่, ดีไซน์เปลี่ยน, รองรับ 3G/4G ทั่วโลก! 


iPhone 5 - อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite เมื่อวานนี้ป๋านำข่าวที่ว่า Apple จะเปลี่ยน Dock Coneector ในiPhone 5 ให้มีขนาดเล็กลงเพื่อให้ผู้ใช้งานสะดวกมากขึ้นซึ่งก็น่าจะถูกใจคนที่เป็นสาวกค่ายนี้กันพอสมควร ล่าสุดดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้ทีเดียวที่อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับ iPhone 5 ก็คือการเพิ่มคุณสมบัติรองรับเครือข่ายทั้ง 3G และ 4G LTE ได้ทั่วโลกนั่นเอง
โดยทรรศนะดังกล่าวมาจากปากคำของคุณ Shaw Wu กูรูในวงการธุรกิจที่ได้ออกมาเปิดเผยว่า iPhone 5 จะมาพร้อมความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆสามจุดด้วยกันไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ตัวเครื่อง iPhone 5 ที่เปลี่ยนใหม่หมด, ขนาดหน้าจอ iPhone 5 ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รวมไปจนถึงความสามารถในการรองรับเครือข่าย 4G LTE ซึ่งจะช่วยให้ iPhone สามารถขยายาฐานลูกค้าไปยังหลายๆประเทศที่รองรับเครือข่ายความเร็วสูงดังกล่าวด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่ Apple หาหนทางเจาะมานานอย่างประเทศจีนนั่นเอง


ซึ่งหากจะว่าไปแล้วในระบบปฏิบัติการ iOS 6 ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา Apple ก็ได้เพิ่มหลายๆคุณสมบัติใหม่ที่กะเอาใจพี่น้องชาวจีนกันอย่างเต็มที่ทั้ง Siri เวอร์ชันใหม่ที่อัพเกรดให้พูดภาษาจีนกลางและจีนกวางตุ้งได้แล้ว, ความสามารถในการป้อนข้อมูลที่เป็นตัวอักษรจีนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมไปจนถึงรองรับบริการออนไลน์ต่างๆของประเทศจีนหลายเจ้าเช่น Baidu, Sina Weibo, Youku และ Tudou เป็นต้น


ที่มา: cnet

12 ราศีกับอารมณ์ในตัวคุณ


คนเราทุกคนมีหลากหลายอารมณ์อยู่ในตัวเอง ทีมงาน Sanook! Horoscope จึงได้นำเีรื่อราวดีๆ เกี่ยวกับอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในตัวของคนทั้ง 12 ราศี ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ราศีไหนจะอารมณ์รุงแรง ราศีไหนจะอารมณ์อ่อนไหว มาดูกันเลยค่ะ


ราศีเมษ (14 เม.ย.-13 พ.ค.)
เป็นคนธาตุไฟใหญ่ หรือไฟต้นธาตุ เปรียบได้กับไฟของดวงอาทิตที่ร้อนแรง จึงทำให้เขาเป็นคนที่ใจร้อน (มากๆ) ซึ่งถ้าเขาโมโหเมื่อไร เป็นได้พังกันไปข้าง
ราศีพฤษภ(14 พ.ค.-13 มิ.ย.)
เป็นคนธาตุดินใหญ่ เปรียบได้กับ ดินของภูเขา จึงทำให้ชาวราศีนี้เป็นคนที่อารมณ์นิ่งมาก ไม่หวั่นไหวง่าย จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องอารมณ์เท่าไรนักกับชาวราศีนี้
ราศีเมถุน(14 มิ.ย.-13 ก.ค.)
เป็นคนธาตุลมกลาง เปรียบได้กับ ลมมรสุม จึงทำให้ชาวราศีนี้เป็นคน2อารมณ์ และแปรปรวนค่อนข้างง่าย ซึ่งถ้าชาวราศีนี้กำลังอารมณ์ไม่หรือ อยู่ในช่วงอารมณ์แปรปรวน กรุณาอย่าเข้าใกล้ เพราะเขาจะพาลคุณไปด้วย เหมือนลมมรสุม ที่พัดพาสิ่งของให้ปลิวว่อนแล้ว และบังเกิดฝนตามมา
ราศีกรกฏ(14 ก.ค.-13 ส.ค.)
เป็นคนธาตุน้ำเล็กเปรียบได้กับ น้ำที่อยู่ในบึงทะเลสาบ จึงทำให้ชาวราศีนี้เป็นคนมีอารมณ์ที่บอกได้ชัดเลยว่า จะมาแนวไหน เช่นถ้าเขาโมโห คุณจะสามารถรู้ได้ทันทีว่า เขากำลังโมโหอยู่ จึงไม่ค่อยเป็นปัญหากับคนรอบข้างเท่าไรนัก เพราะคนรอบข้างจะปล่อยให้เขาหายโมโหก่อน แล้วค่อยเข้าไปคุยด้วยนะจ๊ะ
ราศีสิงห์(14 ส.ค.-13 ก.ย.)
เป็นคนธาตุไฟกลางเปรียบได้กับไฟในกองเพลิง จึงทำให้ชาวราศีนี้ เป็นคนใจร้อนปานกลางถึงขั้นมาก แต่ไม่ถึงกับโมโหรุนแรงมากเท่ากับราศีเมษ แต่อย่าไปพยายามเติมอารมณ์ของเขาให้โมโหมากขึ้นกว่าล่ะ เพราะเหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟเข้าไป อาจทำให้ลุกลามใหญ่โตได้
ราศีกันย์(14 ก.ย.-13 ต.ค.)
เป็นคนธาตุดินเล็กเปรียบได้กับ ดินธรณีธรรมดา จึงทำให้ชาวราศีนี้อารมณ์คงที่ แต่ไม่มากนัก แต่อย่าทำให้เธอโกรธละกัน เพราะเธอจะไม่แยแสคุณว่าคุณจะง้อด้วยวิธีไหนจนกว่าเธอจะคลายความโกรธลงไปได้
ราศีตุลย์(14 ต.ค.-13พ.ย.)
เป็นคนธาตุลมใหญ่เปรียบได้กับลมพายุ จึงทำให้ชาวราศีนี้เป็นคนที่ แปรปรวนที่สุด ในบรรดา12จักรราศีทั้งหมด เพราะเมื่อใดก็ตามที่ เขาโมโห เขาจะเดินหายไปจากคุณเลยในวันนั้น แต่วันต่อมาเขาจะกลับมาดีกับคุณเหมือนว่าไม่เคยโกรธกันมาก่อนเลยในชาตินี้
ราศีพิจิก(14 พ.ย.-13ธ.ค.)
เป็นคนธาตุน้ำกลาง เปรียบได้กับน้ำจากลำธารหรือน้ำตก จึงทำให้ชาวราศีนี้อารมณ์รุนแรงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ประสบอยู่ในตอนนั้น เช่นถ้าคุณทำผิดเล็กๆน้อย ก็อาจจะโกรธไม่มาก แต่ถ้าผิดอย่างใหญ่หลวง ก็ดูฤทธิ์เดชของชาวราศีนี้เอาเองละกัน เพราะราศีนี้อะไรอยู่ใกล้มือไม่ได้ เป็นขว้างใส่หมด ขึ้นชื่อมากในเรื่องกรทำลายเมื่อเธออยู่ในอารมณ์ที่บ้าคลั่ง
ราศีธนู(14 ธ.ค.-13 ม.ค.)
เป็นคนธาตุไฟเล็ก เปรียบได้กับ ไฟจากคบเพลิง จึงทำให้ชาวราศีนี้ อารมณ์ไม่ค่อยรุนแรงเท่าใดนัก แต่เมื่อเขาโมโห อารมณ์เขาก็ออกน่ากลัวหน่อยนึง ไม่ถึงกับขนาดฆ่ากันตาย แต่เขาอาจจะไประบายออกกับ สิ่งอื่นๆมากกว่า เช่นการต่อยกระสอบทรายอะไรพวกนี้แทน
ราศีมังกร(14 ม.ค.-13 ก.พ.)
เป็นคนธาตุดินกลาง เปรียบได้กับ ดินในถ้ำหิน จึงทำให้ชาวราศีนี้ไม่ค่อยแสดงอารมณ์อะไรออกมามากนัก เพราะคุณจะไม่สามารถดูออกได้เลยว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน และถึงแม้เขาจะโมโหปานใดก็ตาม เขาจะไม่ระบายออกกับใครทั้งสิ้นอย่างมากก็บ่นนิดๆหน่อยๆ แล้วก็จะเก็บไว้เองคนเดียว
ราศีกุมภ์(14 ก.พ.-13 มี.ค.)
เป็นคนธาตุลมเล็ก เปรียบได้กับ ลมที่พัดธรรมดา จึงทำให้ชาวราศีนี้อารมณ์ไม่ค่อยแปรปรวนเท่าไร จึงไม่ค่อยมีปัญหาสำหรับอารมณ์ของชาวราศีนี้ แต่ถ้าเขาโมโหเมื่อไร เขาจะไม่พูดกับคุณเลย และทำหน้าบึ้งใส่คุณอีกต่างหาก
ราศีมีน(14 มี.ค.-13 เม.ย.)
เป็นคนธาตุน้ำใหญ่ เปรียบได้กับคลื่นน้ำในมหาสมุทร จึงทำให้ชาวราศีนี้ไม่ค่อยแสดงอารมณ์มากนัก เหมือนราศีมังกร แต่รุนแรงกว่า ซึ่งถ้าจะระบาย ชาวราศีนี้จะระบายเพียงแค่คนรู้จักเท่านั้น แต่เขาจะไม่โกรธแค้นหรือเกลียดคุณแม้ว่าคุณจะทำให้เขาโมโหขนาดไหนก็ตาม


ศึกยูโร 2012 เวลานี้เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว โดยจะเป็นการพบกันระหว่าง โปรตุเกส กับ สเปน และ เยอรมนี กับ อิตาลี ขณะที่ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ถือว่ามีนักเตะหลายต่อหลายคนที่โชว์ผลงานได้เป็นอย่างดี แม้ว่าบางทีมจะไม่สมหวังผ่านเข้ารอบมาก็ตาม
โดยในคอลัมน์วันนี้มีทีมยอดเยี่ยมจากรอบที่ผ่านมา ในระบบ 4-2-3-1 มาให้ได้ติดตามถึงความสามารถกัน
จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน (ผู้รักษาประตู)
ป้องกันลูกที่อังกฤษเข้าโจมตีได้หลายๆ ครั้ง รวมทั้งปฏิกริยาอันรวดเร็วในจังหวะเซฟมือเดียว จากลูกที่ เกล็น จอห์นสัน ยิงจ่อๆ นอกจากนั้นยังป้องกันลูกที่ แอชลี่ย์ โคล ยิงเลียดในการดวลจุดโทษได้อีกด้วย ซึ่งในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ บุฟฟ่อน แม้จะวัยก้าวล่วง 34 ปีก็ตามแต่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทำไมเขาถึงยังคงเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก
ฟิลิปป์ ลาห์ม (แบ๊กซ้าย)
ฟิลิปป์ ลาห์ม ทำแทบทุกสิ่งเท่าที่หน้าที่กัปตันทีมจะทำได้ ดาวเตะจาก บาเยิร์น มิวนิค เล่นเกมรับได้ดี และสามารถควบคุมผลงานของตัวเองได้ตลอดริมเส้นฝั่งซ้ายในนัดที่พบกับกรีซ นอกจากนั้นดาวเตะวัย 28 ปี ยังสามารถเบิกร่องสกอร์แรกให้กับ เยอรมนี ได้ในนาที 39 อีกด้วย
เยอรมนี อาจจะมีนักเตะหลายต่อหลายคนที่เล่นเกมรุกได้ดีในทัวร์นาเมนต์นี้ และถือเป็นทีมที่สมดุลย์ ที่สำคัญยิ่งแนวรับเติมขึ้นมาทำประตูได้แล้วด้วย จึงถือเป็นอะไรที่สมบูรณ์อย่างมาก
เซร์คิโอ รามอส (เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ)
อาจจะจำได้ว่า เซร์คิโอ รามอส นั่นถือเป็นหนึ่งในแบ๊กขวาที่ดีที่สุดในโลก ?
แต่ในศึกยูโร 2012 ครั้งนี้ การขาดหายไปของ คาร์เลส ปูโยล ที่มีอาการบาดเจ็บนั้น ดาวเตะวัย 26 ปี จากเรอัล มาดริด ก็ขยับเข้ามาเล่นแทนได้อย่างลงตัว และในตอนนี้ก็อาจจะเรียกว่าเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดในโลกก็ว่า 
ได้ โดยเฉพาะในนัดกับ ฝรั่งเศส รามอส เล่นได้นิ่งและก็ต้านทานเกมบุกของเหล่าขุนพล "ตราไก่"ได้อย่างไร้ที่ติ
โจเลี่ยน เลสค็อตต์ (เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ)
โจเลี่ยน เลสค็อตต์ ถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับอังกฤษ โดยแข้งวัย 29 ปี จากแมนฯ ซิตี้ สามารถเอาชนะในการปะทะในหลายต่อหลายครั้ง และต้านทานการบุกของอิตาลี ได้ แม้ จอห์น เทอร์รี่ จะเล่นไม่ดีเท่าไหร่ แต่ทว่าการเข้าคู่กับ เลสค็อตต์ ถือเป็นสิ่งที่ลงตัว
ถึงแม้ว่าอังกฤษจะแพ้ในการดวลจุดโทษ แต่ เลสค็อตต์ ก็ถือเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ "สิงโตคำราม"ไม่เสียคลีนชีทหลังจบ 120 นาที
เกล็น จอห์นสัน (แบ๊กขวา)
เกล็น จอห์นสัน ถือว่าเล่นได้เข้าตาในเกมที่พบกับ อิตาลี โดยเฉพาะการเติมเกมขึ้นไปทางฝั่งขวาของสนาม และถือเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในครึ่งแรกของเกมดังกล่าว นอกจากนั้นยังถอยมาเล่นในเกมรับได้เป็นอย่างดีด้วย 
และหากในเกมกับอัซซูรี่ แข้งจากลิเวอร์พูล สามารถยิงผ่านมือ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน ไปได้ รวมทั้งผ่านให้ เวย์น รูนี่ย์ ทำประตู รับรองว่าในเกมนั้น จอห์นสัน อาจได้รับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ก็เป็นได้
ชาบี้ อลอนโซ่ (มิดฟิลด์ตัวรับซ้าย)
ชาบี้ อลอนโซ่ ถือว่าเด่นในเกมที่เอาชนะ ฝรั่งเศส หลังจากเหมาคนเดียว 2 ประตูจากลูกโหม่ง และ จุดโทษอันเยือกเย็น นอกจากนั้นหากมองลึกๆ ไปในเกมแล้ว แข้งจากเรอัล มาดริด ยังทำหน้าที่ประสานจากเกมรับต่อ 
เนื่องไปให้แนวรุกได้เป็นอย่างดี และหยุดเกมแดนกลางของทีม "ตราไก่"ได้ชะงัก
อันเดรีย ปิร์โล่ (มิดฟิลด์ตัวรับขวา)
ถือเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางที่เล่นได้อย่างน่าทึ่ง ปิร์โล่ ออกแรงไม่มาก ไม่ต้องวิ่งสู้ฟัด แต่เป็นจำพวกใช้สมองล้วนๆ ในจังหวะจ่ายบอลอันสุดคม รวมทั้งเปิดบอลได้อย่างยอดเยี่ยม และทำได้ดีกว่า สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 
และ สกอตต์ ปาร์เกอร์ อย่างชัดเจน
อีกทั้งการสังหารจุดโทษของกองกลางจากยูเวนตุส นั้นลุ่มลึก ทำให้ตลอด 120 นาทีในรอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษนั้นคาดเดาได้ยากว่า ปีร์โล่ กำลังจะทำอะไร
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (มิดฟิลด์ตัวรุกทางซ้าย)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถือว่าโดดเด่นไม่น้อยในทัวร์นาเมนต์นี้ และเกมคือคนทำประตูชัยเหนือ สาธารณรัฐเช็ก ให้โปรตุเกส ผ่านเข้ารอบตัดเชือก ซึ่งถ้าหากดาวเตะจากเรอัล มาดริด ยังคงรักษามาตราฐานผลงานได้อย่างต่อเนื่อง การที่โปรตุเกส จะคว้าแชมป์ก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน
แม้สาธารณรัฐเช็ก จะดูแตกต่างและห่างอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม สเปน ถือเป็นคำตอบในรอบต่อไปว่าจะหยุด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ โปรตุเกส ได้หรือไม่
เมซุต โอซิล (มิดฟิลด์ตัวรุกกลาง)
เรียกว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์ ณ.ขณะนี้ก็ว่าได้ โอซิล ถือเป็นพลังขับเคลื่อนเดินเกมรุกให้กับเยอรมนี และดูเหมือนว่าจังหวะผ่านบอลในแต่ละครั้งก็จะนำมาซึ่งประตูให้กับทีม "อินทรีเหล็ก" นอกจากนั้นยังถือว่าเป็นผู้เล่นที่อันตรายไม่น้อยยามที่เกิดท็อปฟอร์มขึ้นมา
ขณะที่ในเกมกับ กรีซ อดีตกองกลางจากเบรเมน จ่าย 2 ลูก ให้ทีมได้ประตู นอกจากนั้นยังจ่ายสวยๆ ได้อีกหลายครั้ง แม้ว่า เยอรมนี จะมีผู้เล่นเกมรุกมากอยู่แล้ว แต่ โอซิล ก็ยังรักษาผลงานได้ดีต่อเนื่อง
เจา มูตินโญ่ (มิดฟิลด์ตัวรุกทางขวา)
เจา มูตินโญ่ ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดผลหรือมีอิทธิพลต่อโปรตุเกส บริเวณพื้นที่กลางสนาม และพาบอลไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมทีมอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกด้วย 
เกมกับ สาธารณรัฐเช็ก กองกลางวัย 25 ปี จากปอร์โต้ เล่นได้ดี พร้อมกับทำหนึ่งแอซซิส ในเกมนั้นด้วย มูตินโญ่ ถือเป็นกองกลางที่แข็งแกร่ง และเป็นอะไรที่ทีม "ฝอยทอง"ต้องการ
มิโรสลาฟ โคลเซ่ (ศูนย์หน้าตัวเป้า)
มิโรสลาฟ โคลเซ่ คือตำนานของทีม "อินทรีเหล็ก" และเขาก็ทำได้ดีอีกครั้งในรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังจากรอบแรกเป็นทางด้านของ มาริโอ โกเมซ ที่โชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี
หัวหอกจาก ลาซิโอ มักจะรู้ว่าควรทำอย่างไรที่จะผลิตสกอร์ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ และเขาก็สามารถทำมันได้ในเกมที่เอาชนะ กรีซ 4-2 ซึ่งนั่นหมายถึงว่าทำไม เยอรมนี ถึงทุกมองว่าเป็นทีมที่อันตรายอยู่เสมอ
สำหรับกองหน้าวัย 34 ปีผู้นี้ ถูกยกย่องว่าเยี่ยมเสมอ และก็มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยในการที่จะกลายเป็นตำนานในศึกยูโร

cradit by: sanook.com

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

GoldFishz_


[รีวิว] Samsung Galaxy S III สมาร์ทโฟนสุดล้ำแห่งยุค มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ครบครันทุกการใช้งาน (Samsung Galaxy S 3 review)
เดินทางมาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) สมาร์ทโฟนรุ่นที่ 3 ในตระกูล Galaxy S ที่เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา โดย Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่มีการเติบโตขึ้นมาก จากสมาร์ทโฟนรุ่นพี่เลยก็ว่าได้ครับ ดังจะเห็นได้จากข่าวลือ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ต่างๆ ในช่วงก่อนเปิดตัว ที่มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้ง ยังมียอดสั่งจองสูงถึง 9 ล้านเครื่อง ก่อนเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกด้วย
สำหรับความโดดเด่นของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น นอกจากตัวเครื่องจะมี หน้าจอแสดงผลขนาด 4.8 นิ้วแล้ว ยังมาพร้อมกับความแรงระดับ Quad-core ด้วยซีพียู ARM Cortex A9 (Exynos 4212 chipset) ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz เลยทีเดียว เรียกได้ว่า ใครที่ชอบสมาร์ทโฟนแรงๆ หน้าจอใหญ่ๆ คงจะถูกใจได้ไม่ยากครับ นอกจากนี้ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ยังเน้นในเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย รวมไปถึงฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ที่ Galaxy S 2 รุ่นก่อนหน้า ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย
ส่วนราคา Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ในประเทศไทย อยู่ที่เครื่องละ 21,900 บาทครับ
สเปค Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)
- จอแสดงผลกว้าง 4.8 นิ้ว แบบ HD Super AMOLED Capacitive Touchscreen ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล
- ระบบประมวลผลแบบ Quad-Core ARM Cortex-A9 (Exynos 4212 Chipset) Processor ความเร็ว 1.4 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) Mali-400MP
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0.4 Ice Cream Sandwich
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- User Interface แบบ TouchWiz 4.0 UI
แกะกล่อง Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)
สำหรับกล่องบรรจุ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น มีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป โดยด้านหน้า มีตัวอักษร Samsung Galaxy S III อย่างชัดเจน ส่วนรายละเอียดด้านข้างนั้น จะเป็น serial number และสีของตัวเครื่องครับ โดย Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ที่จะมารีวิวในวันนี้ เป็นสีขาว Marble White แต่ข้างกล่องระบุว่าเป็นสี Ceramic White ซึ่งถ้าหากเป็นเครื่องสีขาว ตัวกล่องจะเป็นสีขาว ส่วนเครื่องสีน้ำเงิน Pebble Blue ตัวกล่องจะเป็นสีน้ำเงินครับ
ด้านในครับ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) สีขาว Marble White
อุปกรณ์ด้านในกล่อง มีทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกัน
ที่ชาร์ตแบตเตอรี่ มีขนาดที่เล็ก กระทัดรัด
microUSB data cable สำหรับต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อถ่ายโอนข้อมูล และเสียบเข้ากับที่ชาร์ตแบตเตอรี่ เพื่อชาร์ตแบตครับ
Headset สำหรับใช้งานเป็นหูฟัง หรือใช้เป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนา
รูปลักษณ์ และการออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)
Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) หน้าจอขนาด 4.8 นิ้ว แบบ แบบ HD Super AMOLED Capacitive Touchscreen ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล
ส่วนประกอบด้านบนจอแสดงผล (จากซ้ายไปขวา) ได้แก่ ไฟแสดงสถานะ LED, ลำโพงสำหรับสนทนา, Ambient Light sensor สำหรับตรวจจับสภาพแสง และปรับหน้าจอให้สว่างตามสภาวะนั้นๆ, Proximity sensor สำหรับปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
สำหรับไฟแสดงสถานะ LED นั้น สามารถเลือกให้แจ้งเตือนทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกันคือ ชาร์ตแบตเตอรี่, Missed call หรือเมสเสจที่ไม่ได้เปิดอ่าน และพวก event ต่างๆ ที่ได้ตั้งไว้ ซึ่งสามารถเลือกได้จากหน้า settings ครับ
ด้านล่าง มีปุ่มการใช้งานทั้งหมด 3 ปุ่มด้วยกัน โดย 2 ปุ่มซ้ายขวา คือปุ่ม Menu กับปุ่ม Back ซึ่งเป็นปุ่มแบบ capacitive button โดยไฟจะสว่างขึ้นเมื่อมีการสัมผัสหน้าจอ หรือกดใช้งาน ส่วนปุ่มตรงกลางนั้น คือปุ่ม Home ซึ่งเป็นปุ่มแบบ physical button
ด้านบนตัวเครื่อง เป็นไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่าง เป็น microUSB port และ ไมโครโฟนสำหรับสนทนาตัวหลัก
ปุ่มปรับเสียง อยู่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง
ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่มเปิด-ปิด-ล็อคเครื่อง
มาดูด้านหลังตัวเครื่องกันบ้างครับ สำหรับ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) สีขาว Marble White นี้ ที่เห็นในภาพ ฝาหลังจะดูเป็นสีขาวล้วน แต่จริงๆ แล้ว ฝาหลังของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) สีขาวนี้ จะมีลวดลายเล็กน้อยครับ ลักษณะเป็นเหมือนคลื่นๆ ใครที่ได้เห็นตัวจริงแล้ว คงจะนึกภาพออก
มาดูส่วนประกอบด้านหลังตัวเครื่องกันบ้าง ด้านซ้ายสุด เป็นไฟแฟลช LED ตามมาด้วย กล้องดิจิตอล ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และลำโพง
แกะฝาหลังออกดูบ้าง
จะพบกับช่องสำหรับ microSD card, ช่องสำหรับ SIM card และแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ขนาด 2100 mAh
เปรียบเทียบกับ ไอโฟน 4S (iPhone 4S) สีขาว ดูเครื่องเล็กไปถนัดตา
เปรียบเทียบกับ HTC One X หน้าจอเล็กกว่าเล็กน้อย 4.7 นิ้ว
ดูการเปรียบเทียบด้านข้างกันบ้าง จะเห็นว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ตัวเครื่องยาวกว่าเล็กน้อย
ฟีเจอร์น่าสนใจบน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)
Home screen และ Task manager
สำหรับ User Interface ที่ใช้บน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น เป็น TouchWiz 4.0 UI บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich ที่ให้ความรู้สึกแบบธรรมชาติครับ ส่วนหน้า Home screen นั้น สามารถเพิ่มได้สูงสุดที่ 7 หน้าจอ และเปลี่ยน Widgets หรือแอพพลิเคชั่นได้ตามใจชอบ
ในส่วนของหน้า Task manager หรือหน้าการจัดการแอพพลิเคชั่นนั้น สามารถเข้าสู่หน้าจอนี้ได้โดยการกดปุ่ม Home ค้างไว้ ซึ่ง การปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการใช้งาน สามารถทำได้โดยปัดนิ้วเพื่อ หรือถ้าหากต้องการปิดทุกแอพพลิเคชั่น ให้กดที่ปุ่ม ลบออกหมด (Remove All)
App drawer
หน้า app drawer บน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) จะมีการแบ่งแยกส่วนที่เป็น แอพพลิเคชั่น และ Widgets อย่างชัดเจน โดยในหน้านี้ สามารถเลือก view mode ได้ทั้งหมด 3 แบบคือ แบบ Customizable Grid สามารถจัดเรียงไอคอนที่มีความสำคัญก่อนหลังได้ตามใจชอบ, Alphabetical grid จัดเรียงตามตัวอักษรแบบตาราง (แบบที่ปรากฎตามภาพ) และ Alphabetical list จัดเรียงตามตัวอักษรแบบลิสรายชื่อ
สำหรับการเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการจิ้มค้างที่หน้า Home screen จะ ปรากฎหน้าจอขึ้นมาให้เลือก โดยภาพวอลเปเปอร์นั้น มีให้เลือกทั้งภาพวอลเปเปอร์แบบนิ่ง และเคลื่อนไหว รวมถึงสามารถเลือกภาพส่วนตัว มาตั้งเป็นวอลเปเปอร์ได้ด้วย
Notifications
ในส่วนของ Notifications หรือการแจ้งเตือนนั้น นอกจากจะเป็นการแจ้งเตือนในเรื่องต่างๆ แล้ว ยังมีปุ่ม toggle มาให้เลือกถึง 10 ปุ่มด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, GPS, เปิด-ปิดเสียง (Sound), ล็อคการหมุนของหน้าจอ (Screen rotation), แจ้งเตือน (Notification), Mobile data, Bluetooth, โหมดขับรถ (Driving mode) และสุดท้าย Sync
นอกจากนี้ ในส่วนของ Notifications นั้น ยังมีปุ่มลัด เข้าหน้า Settings อีกด้วยครับ
มากันที่การใช้งานด้านเบราเซอร์กันบ้างครับ ซึ่งการตอบสนองการใช้งานในส่วนนี้ ถือว่า ทำได้ดีเลยทีเดียวเนื่องจาก Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Quad-core Processor ความเร็ว 1.4 GHz นั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นการ rotate อ่านในแนวตั้ง หรือแนวนอน หรือแม้แต่การ Pinch-to-Zoom ก็ยังตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยมครับ
อย่างไรก็ดี เบราเซอร์บน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น ไม่มีแท็บแบ่งแต่ละหน้าเว็บไซต์ในด้านบน ถ้าหากต้องการจะเพิ่มหน้าเว็บไซต์ใหม่ ต้องกดที่ปุ่มบนขวา แล้วกดเครื่องหมาย + เพื่อเพิ่มหน้าเว็บไซต์ใหม่ หรือเปิดดูหน้าเว็บไซต์อื่นที่เปิดค้างไว้ ลักษณะคล้าย Safari บน iPhone ครับ
ในส่วนของหน้าการใช้งานโทรศัพท์นั้น มี User Interface ใช้งานที่ง่าย และไม่ซับซ้อนครับ โดยเมนูการใช้งานนั้น อยู่ในตำแหน่งด้านบน ส่วนหมายเลขโทรศัพท์ที่แสดงนั้น เห็นชัดเจนดี นอกจากนี้ ถ้าหากเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ยังไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน จะมีปุ่ม "เพิ่มในรายชื่อ" ขึ้นทันที ถือว่า สะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมากครับ
ฟีเจอร์ใหม่บน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)
ความพิเศษของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ที่นอกเหนือไปจากสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ ทั้ง Galaxy S II และ Galaxy S ก็คือ ฟีเจอร์การใช้งานแบบใหม่ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานนั่นเอง มาดูกันว่า ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั้น มีอะไรกันบ้าง
S Voice สั่งงานได้ด้วยเสียง
สำหรับ S Voice นั้น ถือว่า เป็นฟีเจอร์ใหม่ และฟีเจอร์สำคัญบน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) เลยก็ว่าได้ โดยการทำงานของ S Voice นั้น คล้ายกับ Siri บน iPhone 4S นั่นก็คือ ใช้เสียงเพื่อสั่งให้ระบบทำงานครับ
S Voice สามารถใช้งานได้ทั้งหมด 8 ภาษาด้วยกัน นั่นก็คือ ภาษาอังกฤษ (สหราชอาณาจักร), ภาษาอังกฤษ (อเมริกา), ภาษาเยอรมัน, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาอิตาลี, ภาษาละติน, ภาษาสเปน และภาษาเกาหลีครับ ใครเก่งภาษาไหน ลองทดสอบใช้งานกันดู
ซึ่งหลังจากทดสอบใช้งาน S Voice แบบภาษาอังกฤษ พบว่า ยังฟังภาษาอังกฤษสำเนียงไทยๆ ไม่ออกครับ (ตอนที่ทดสอบการใช้งาน Siri ก็เกิดปัญหาแบบนี้เหมือนกัน) ซึ่งในคลิปวิดีโอรีวิว เลยใช้สำเนียงแบบฝรั่งๆ บน iPhone มาทดสอบกับ S Voice ดู ปรากฎว่า สามารถสั่งการได้ครับ
ส่วนการเปิดใช้งาน S Voice ทำได้โดยการกดดับเบิ้ลคลิ๊ก ที่ปุ่ม Home เพื่อเปิดใช้งานครับ
SmartStay
หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นฟีเจอร์ไม่ให้หน้าจอดับขณะจ้องมองครับ ยก ตัวอย่างเช่น เราตั้งเวลาหน้าจอไว้ 1 นาทีหน้าจอถึงจะดับ ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ที่ด้านบนจะมีรูปลูกตาโผล่ขึ้นมา ถ้าหากเรายังคงจ้องมองหน้าจออยู่ หน้าจอก็จะไม่ดับ โดยการทำงานของ SmartStay นั้น จะใช้กล้องด้านหน้า จับสายตา และใบหน้าของผู้ใช้งานครับ ถ้าหากหันหน้าหนี หน้าจอก็จะดับลง แต่ไม่มีผลต่อการกระพริบตานะครับ มิเช่นนั้น กระพริบตา 1 ที หน้าจอดับ 1 ที คงไม่เป็นอันต้องใช้งานกันพอดี :D
S Beam
ฟีเจอร์ที่เราคุ้นเคยกันดีบน Samsung Galaxy Nexus กับการส่งไฟล์ผ่าน Wi-Fi Direct แทนการส่งผ่าน NFC แบบเดิมๆ ซึ่งทำให้สามารถส่งไฟล์ได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยการใช้งานนั้น เพียงแค่เปิดฟังก์ชั่น S Beam แล้วแตะกับเครื่องที่ต้องการจะส่งไฟล์ครับ ซึ่ง S Beam นี้ มีข้อดีตรงที่ว่า หลังจากแตะเครื่องเพื่อจับคู่แล้ว สามารถแยกเครื่องออกจากกันได้เลยทันที โดยไม่ต้องจับเครื่องมาชนกัน หรือแตะใกล้ๆ กันจนกว่าจะส่งไฟล์เสร็จ
ทดสอบกล้อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล บน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)
สำหรับกล้องถ่ายรูปด้านหลัง บน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น มีความละเอียดเท่ากับ Samsung Galaxy S II นั่นก็คือ 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash เพียงแต่ว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการถ่ายภาพให้ดีขึ้น
โดยเมนูการใช้งานในส่วนกล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) จะมีลักษณะคล้ายกับ Samsung Galaxy S II เช่นกัน เพียงแต่มีโหมดใหม่เพิ่มเข้ามา นั่นก็คือ Burst shot โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง สูงสุด 3.3 รูปต่อวินาที ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 20 ภาพ และ HDR อีกทั้ง ยังมี Zero Shutter Lag ถ่ายภาพโดยไร้ความหน่วง กดชัตเตอร์ปุ๊บ จับภาพทันที และสามารถถ่ายต่อได้เลยอีกด้วยครับ
เสริมการถ่ายภาพฟังก์ชั่น Burst shot อีกเล็กน้อยครับ ถ้าหากผู้ใช้งานเลือก Burst shot พร้อมกับ Best photo ระบบจะเลือกภาพที่ดีที่สุดออกมาให้ โดยเป็นสัญลักษณ์คล้ายๆ กด Like บน Facebook ครับ
ส่วนความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย อยู่ที่ 3264 x 2448 พิกเซล ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องบน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ครับ

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

GoldFishz_



โพลชี้ สังคมไทยสมัยนี้ อยู่ยากขึ้นทุกวัน
จากกรณีข่าวหนุ่มโรคจิตสาดสารเคมี และ ข่าวทุจริตการสอบตำรวจโดยมีการซุกซ่อนเครื่องมือส่งสัญญาณไว้ที่ตัว    ซึ่งเป็นประเด็นร้อนที่สังคมให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีความเป็นห่วงต่อสภาพสังคมไทย ณ วันนี้ และเป็นข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล  จำนวน 1,116 คน  ระหว่างวันที่ 11-12 มิถุนายน 2555  สรุปผลได้ดังนี้
1.  ความคิดเห็นของประชาชน กรณี “หนุ่มโรคจิตสาดสารเคมีใส่หญิงสาวกว่า 30 ราย”
- 51.13% เห็นว่า สังคมไทยมีความปลอดภัยน้อยลง , เป็นภัยสังคมที่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน , รู้สึกกลัว วิตกกังวล และหวาดระแวงเมื่อออกจากบ้าน
- 29.55% เห็นว่า เป็นพิษภัยจากยาเสพติดที่ทำให้เกิดภาพหลอนจนดูเหมือนเป็นโรคจิต  ไม่ควรปล่อยให้ออกมาคนเดียวหรือไม่มีญาติหรือครอบครัวดูแล 
- 19.32% เห็นว่า คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในสังคมไทย , เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้มงวดกวดขัน
2.  ความคิดเห็นของประชาชน กรณี “การทุจริตสอบเข้ารับราชการตำรวจ” โดยมีการซุกซ่อนเครื่องมือส่งสัญญาณไว้ที่ตัว
 52.69% เห็นว่า แสดงให้เห็นถึงการขาดจิตสำนึก ไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่มีคุณธรรมจริยธรรม , คนประเภทนี้ไม่สมควรเข้ารับราชการเพราะถ้าเข้ามาแล้วก็อาจทำผิดอีกได้
- 29.03% เห็นว่า เป็นการทุจริตแบบเป็นขบวนการ มีเรื่องเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง , หน่วยงานที่ดูแลการสอบตลอดจนเจ้าหน้าที่คุมสอบต้องเข้มงวดกวดขันและมีมาตรการป้องกันที่รัดกุมยิ่งขึ้น
- 18.28% เห็นว่า ควรเร่งสืบหาข้อเท็จจริง และหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว , มีบทลงโทษที่รุนแรงทั้งคนบอกข้อสอบและผู้เข้าสอบ , ตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าสอบอีก ห้ามรับราชการโดยเด็ดขาด
3.  จากเหตุการณ์ทั้ง 2 เรื่องนี้ ประชาชนมองสภาพสังคมไทย ณ วันนี้ เป็นอย่างไร?
- 65.43% เห็นว่า สภาพสังคมไทยเสื่อมถอยลงทุกวัน , เป็นสังคมที่ไม่มีความปลอดภัย , ทั้งสภาพจิตใจและพฤติกรรมของคนในสังคมควรได้รับการเยียวยาอย่างเร่งด่วน
- 18.52% เห็นว่า การทุจริตคอรัปชั่นเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาครัฐควรเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง
- 16.05% เห็นว่า การอยู่รอดในสังคม ณ วันนี้ จะต้องตระหนักและรู้จักใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง และมีสติ
4.  ประชาชนคิดว่าควรทำอย่างไร? จึงจะช่วยกันสร้างสังคมไทยให้เข้มแข็งและไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
-  36.27% เห็นว่า คนไทยทุกคนต้องมีความรักความสามัคคี  เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันทุกฝ่ายร่วมมือกัน ช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลให้สังคมเป็นสังคมที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
- 33.34% เห็นว่า ต้องเริ่มจากครอบครัวในการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ตั้งแต่วัยเยาว์ , ผู้ใหญ่เป็นต้องแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก
- 19.61% เห็นว่า สังคมต้องมีกฎระเบียบที่ชัดเจน และต้องมีการปฏิบัติตามอย่างเป็นรูปธรรม มีบทลงโทษที่เหมาะสมและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
- 10.78% เห็นว่า สื่อมวลชนจะต้องนำเสนอข่าวสารต่างๆอย่างรอบด้าน สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555