วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555



10 อันดับผลไม้กินแล้วไม่อ้วน


ผลไม้ 10 ชนิดต่อไปนี้ จัดเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ และ กินได้บ่อยๆ แบบไม่ต้องกลัวอ้วน ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และเพิ่มภูมิคุ้มกันอีกด้วย ผลไม้ทั้ง 10 ชนิดนี้มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเฉลี่ย 1.9 – 10 กรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม โดยอะโวกาโดมีคาร์โบไฮเดรตต่ำสุด แอปเปิลมีคาร์โบไฮเดรตสูงสุด



1. กีวี - มีสารแอกทินิดีน ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทำให้หัวใจแข็งแรง





2. มะเขือเทศ - ช่วยลดความเสียงจากมะเร็งและโรคหัวใจ






3. มะละกอ – ช่วยย่อยอาหารและโปรตีน






4. อะโวคๅโด – ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งชนิดต่างๆ ได้ถึง 30 ชนิด






5. สับปะรด – ช่วยต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย





6. ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ – เช่น สตอเบอร์รี่ แบลคเบอร์รี่ ผลไม้กลุ่มนี้ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต





7. แครนเบอร์รี่ – ช่วยป้องกันนิ่วในไต ต้านเชื้อไวรัส





8. ผลไม้ตระกูลส้ม – ช่วยลดคอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือด





9. ผลไม้กลุ่มแตง – มีสรรพคุณสูงสุดในการล้างพิษให้กับร่างกาย





10. แอปเปิ้ล – ช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร






การกินผลไม้ กินแล้วดี มีประโยชน์มากมาย แต่บางครั้งก็ต้องเลือกกิน และกินในปริมาณที่พอดี เพราะมีผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้ผลไม้ที่กิน แล้วอ้วนสุด ๆ คือ







1 กล้วยไข่



2 คือ กล้วยน้ำว้า



3 คือ ขนุน



4 คือ กล้วยหอม



5 คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก



6 คือ ลำไยกะโหลกเขียว



7 คือ ลองกอง






8 คือ เงาะ




9 คือ ลางสาด





อันดับสุดท้ายน้ำตาลน้อยสุด คือ ละมุด





แต่ ทุเรียน ก็เป็นผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลสูงมาก ๆ ใครที่กินรับรองอ้วนแน่ ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ได้แก่ แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วงดิบ มะละกอ และ แตงโม

"Sapper" หน่วยกล้าตายที่ถูกลืม !! ..

รู้หรือไม่ ...

Sapper แปลตามศัพท์ภาษาอังกฤษว่า ทหารช่างที่มีความชำนาญในการทำลายป้อมค่ายและงานเกี่ยวกับการสร้างป้อมค่าย รวมไปถึงผู้ที่มีความชำนาญในการวางและเก็บกู้ทุ่นระเบิด



แซปเปอร์ที่ดังที่สุด เป็นคำที่ สหรัฐใช้เรียก หน่วยกล้าตายของเวียดนามเหนือ ในระหว่างสงครามเวียดนาม ที่สร้างความหวาดหวั่นให้แก่กองกำลังสหรัฐและพันธมิตรในสงครามเวียดนาม เรียกว่า ขนพองสยองเกล้าเพียงแค่ได้ยินหรือนึกถึงความบ้าบิ่นของหน่วยนี้ ก็ว่าได้

เวียดนามเหนือจัดตั้งหน่วยหัวหอกแซปเปอร์ขึ้นมาเพื่อเจาะทะลุทะลวงเปิดทาง การโจมตีและลดการสูญเสียของแก่กำลังหลัก

กุญแจสำคัญของหน่วยแซปเปอร์ คือ วัตถุระเบิดและการใช้วัตถุงาน หน่วยแซปเปอร์จึงได้รับการฝึกเป็นอย่างดีเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ไม่ว่าจะเป็น ของฝ่ายตนเองและข้าศึก วิธีการวางระเบิดต่อเป้าหมายต่างๆ การปลดและนำกลับมาใช้ของทุ่นระเบิดของข้าศึก



การฝึกของแซปเปอร์ไม่มีความแตกต่างจากหน่วยทหารทั่วไป แต่ การดำเนินกลยุทธ การปฏิบัติการ และวินัยของหน่วยแซปเปอร์ต่างหาก ที่ทำให้เกิดความแตกต่างจากหน่วยทั่วไป

กองทัพน้อยแซปเปอร์ เป็นหน่วยทหารช่างขนาดเล็กที่เคลื่อนที่อย่างเงียบกริบ ภารกิจหลัก คือ การทำลายกำลังของสหรัฐและพันธมิตรด้วยการปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งมักประกอบด้วย การทำลายเป้าหมาย การสังหารผู้บังคับบัญชาข้าศึก การก่อวินาศกรรม การลาดตะเวน การรบประชิด การซุ่มโจมตีและการเป็นหัวหอกในการเข้าตีเจาะ วิธีการแทรกซึมนี้ ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงยิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งสุดยอดอย่างหนึ่งที่มีแต่เฉพาะหน่วยแซปเปอร์



การแต่งกายของแซปเปอร์ มักจะมีแต่เพียงผ้าเตี่ยวหรือกางเกงขาสั้น และพรางตัวด้วยโคลน อุปกรณ์ประจำตัวอื่น ๆ จะประกอบด้วยปืนอัตโนมัติ คีมตัดลวด ดาบปลายปืน เหล็กแหลมขุดค้นทุ่นระเบิด ท่อนไม้ไผ่สำหรับยกลวดหนามและลวดสั้น ๆ จำนวนหนึ่งเพื่อปลดชนวนวัตถุระเบิด และในระหว่างการแทรกซึมอาจจะมีการปฏิบัติการลวงด้านอื่นเพื่อย้ายความสนใจของข้าศึกให้ออกจากการตรวจการต่อการแทรกซึมของแซปเปอร์

แต่ถ้าหน่วยนำของแซปเปอร์ไม่สามารถไปจัดการต่อข้าศึกได้ แซปเปอร์อาจจะถอนกำลัง หรือไม่ก็จะใช้กำลังที่เหลือบุกไปข้างหน้าโดยไม่แยแสต่อความสูญเสีย ความปลอดภัยหรือเส้นทางหนี จนกว่าภารกิจจะสำเร็จหรือมีคำสั่งให้ถอนตัว

การปฏิบัติการของแซปเปอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ

- การปฏิบัติการโจมตีต่อสถานทูตสหรัฐในกรุงไซง่อน เวียดนามใต้



ในการการปฏิบัติการรุกวันตรุษญวนของเวียดนามเหนือ แซปเปอร์จำนวน 19 คน จากกองพัน แซปเปอร์ ซี 10 ที่แทรกซึมเข้ามาอยู่ในไซ่ง่อนล่วงหน้า แซปเปอร์หน่วยนี้ได้รับคำสั่งเร่งด่วนให้ยึดสถานทูตสหรัฐ โดยให้ยึดไว้ให้ได้ 48 ชั่วโมงเพื่อรอกำลังส่วนใหญ่ที่รุกมาจากเวียดนามเหนือเดินทางมาสมทบ

วันที่ 31 มกราคม 2511 เวลา 02.45 น. รถบรรทุกแซปเปอร์ 19 คน พร้อมอาวุธครบมือ แต่งกายชุดสีดำ ผูกแขนด้วยผ้าสีแดง มาถึงหน้าสถานทูตสหรัฐ แล้วเปิดฉากการยิงด้วยปืนอาก้า และจรวดประทับบ่า ทหารสารวัตร 2 นายของสหรัฐทำการยิงตอบโต้และปิดประตู แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีได้ แซปเปอร์ระเบิดกำแพงของสถานทูตเป็นช่องขนาด 1 เมตรด้วยจรวดต่อสู้รถถัง จากนั้น 2 คนแรกของแซปเปอร์ที่คาดว่าเป็นหัวหน้าชื่อ เบ ทูเย็น และ อุท โน มุดเข้าไปในรูนั้นและยิงต่อสู้กับทหารสหรัฐ 2 นาย แต่ทั้ง 4 คนเสียชีวิตในการต่อสู้ระยะประชิดนั้น แซปเปอร์ที่เหลือแม้ว่าจะสูญเสียหัวหน้าหน่วยยังคงบุกต่อเข้าไปยังอาคารหลักของสถานทูต แต่ทหารสหรัฐสามารถตั้งหลักได้ประกอบกำลังเสริม ยิงต่อสู้และทำลายการโจมตีของแซปเปอร์ได้ในช่วงสายของวันเดียวกัน

ผลการปะทะ แซปเปอร์เสียชีวิต 17 คน ถูกจับเป็นเชลย 2 คน ทหารสหรัฐเสียชีวิต 5 นาย เวียดนามใต้เสียชีวิต 4 คน

- ยุทธการภูผาที

ในขณะที่การสู้รบในเวียดนามและการโหมทิ้งระเบิดโดยกองทัพอากาศสหรัฐต่อเป้าหมายทางทหารในเวียดนามเหนือ เวียดนามใต้และลาวกำลังดำเนินไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรง

ภูผาที หรือ LS-85 มีความสูงกว่า 5,000 ฟุต สหรัฐได้เลือกเอายอดเขาลูกนี้เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ที่ทันสมัยที่สุด ติดตั้งอุปกรณ์นำร่องในการทิ้งระเบิดของเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐ (Radar Bombing Control System) ชี้เป้าให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิดโดยนักบินไม่จำเป็นต้องมองเห็นเป้าด้วยสายตา และระบุเป้าหมายได้ในทุกสภาพอากาศ

ภูผาที ถือเป็นหัวใจของการปฏิบัติการทางอากาศในเวียดนามและลาว จึงถูกวางกำลังอารักขาไว้อย่างเข้มแข็งโดยทหารสหรัฐ ทหารไทย และม้ง

ด้วยเหตุนี้ทางเวียดนามเหนือได้มองเห็นอันตรายจากการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวบนภูผาทีและได้วางแผนเพื่อทำลายฐานเรด้าร์บนภูผาที

วันที่ 11 มีนาคม 2511 หน่วยแซปเปอร์ของเวียดนามเหนือ ประมาณ 30 คน บุกขึ้นไปสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิคของกองทัพอากาศสหรัฐเสียชีวิตประมาณ 20 นาย

ถึงแม้จะสามารถต้านการบุกและกวาดต้อนแซปเปอร์ลงเขาไปได้ แต่ก็พบเพียงรอยเลือดของแซปเปอร์เป็นหย่อมๆ แซปเปอร์ไม่ทิ้งผู้บาดเจ็บ หรือล้มตายไว้ที่นั่นเลย นับเป็นวินัยที่เคร่งครัดอย่างยิ่งยวด



แต่สิ่งที่น่าแปลกใจระคนสงสัยอย่างที่สุด คือ แซปเปอร์เหล่านั้น ปีนป่ายขึ้นไปได้อย่างไร เพราะภูผาที มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ยากที่จะขึ้นสู่ยอดเขาได้โดยง่าย

- การปฏิบัติการแทรกซึมสนามบินสหรัฐ ที่ จังหวัดอุบลราชธานี

สนามบินดังกล่าวใช้เป็นฐานบินในการขึ้นลงของเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินรบของสหรัฐที่โจมตีเวียดนามเหนือ ในช่วงสงครามเวียดนาม

แซปเปอร์พยายามเข้าแทรกซึมเข้าไป จำนวน 3 ครั้ง เมื่อ 28 กรกฎาคม 2512 , 12 มกราคม 2513 และ 4 มิถุนายน 2515 โดยหน่วยแซปเปอร์ดังกล่าว เป็นหน่วยขนาดเล็กที่ปฏิบัติการอิสระและคาดว่าเป็นคนเวียดนามเหนือที่อพยพมาอยู่ในไทยที่เดินทางไปฝึกที่เวียดนามเหนือแล้วแทรกซึมกลับผ่านเข้าไทยมาทางลาว

ผลการปฏิบัติภารกิจ แซปเปอร์ล้มเหลว และถูกสังหารจำนวน 4 คน และถูกยึดยุทโธปกรณ์ได้จำนวนหนึ่ง ส่วนฝ่ายสหรัฐสูญเสียสุนัขสงคราม 1 ตัว

ขอบคุณ atcloud.com และ pantip.com

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


ประกาศเตือนภัย
"พายุโซนร้อน “วีเซนเต” (VICENTE)" 

ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2555
     เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 ก.ค.55) พายุโซนร้อน “วีเซนเต” (VICENTE) มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 420 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 20.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2555 ซึ่งจะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 23-27 กรกฎาคม 2555 บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จะมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
สำหรับในช่วงวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2555 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ด้านตะวันตกของประเทศและภาคใต้ มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในเวลา 16.30 น


สงครามไทย-จีน




รู้หรือไม่ ...







ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากญี่ปุ่นยึดครองเมืองชายฝั่งของจีนส่วนใหญ่ได้แล้ว ต้องเจอกับปัญหาสงครามจรยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอังกฤษและอเมริกา(แอบ)ส่งอาวุธให้จีนผ่านทางอินโดจีน









แต่เนื่องจากญี่ปุ่นไม่อยากรบกับอเมริกาจึงต้องกัดฟันรบต่อไป จนกระทั่งอเมริกาประกาศบอยคอตญี่ปุ่น รวมทั้งสั่งปิดคลองปานามา ทำให้ญี่ปุ่นเหมือนถูกรัดคอ จึงต้องทำสงครามกับอเมริกา ทั้งๆที่ นายพล ฮิเดกิ โตโจ ผู้นำญี่ปุ่นตอนนั้นจะรู้ว่าด้วยทรัพยากรของญี่ปุ่นตอนนั้นทำสงครามได้อย่างมาก 2 ปี ญี่ปุ่นนำกำลังเข้ายึดเกาะแก่งต่างๆในมหาสมุทรแปซิฟิกได้รวดเร็วประดุจลมบ้าหมู เพื่อหาทรัพยากรมาเดินหน้าสงครามต่อให้ได้









ตอนนั้นพวกอเมริกาส่งอาวุธให้จีนผ่านอาณานิคมฝรั่งเศสในเวียตนาม ญี่ปุ่นจึงเข้ายึดเวียตนามก่อน แต่อเมริกายังดอดไปแอบส่งอาวุธให้จีนผ่านทางพม่าอีก ทำให้ญี่ปุ่นต้องหาทางยึดพม่าให้ได้ แต่การที่จะอ้อมประเทศไทยไปตีพม่าก็ดูจะสิ้นเปลืองเกินไป เพราะกำลังส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นก็มาขึ้นฝั่งรอที่เวียตนามแล้ว









ญี่ปุ่นจึงส่งกำลังขึ้นบกในไทยและบังคับให้ไทยเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น เพื่อเป้าหมาย คือ ต่อสู้กับอังกฤษ (เจ้าอาณานิคมพม่า) และไทยก็ตอบรับกับญี่ปุ่น

เมื่อเป็นพันธมิตรกัน ญี่ปุ่นจึงส่งกำลังบุกเข้าตีย่างกุ้งเมืองหลวงของพม่าทันที ส่วนกองทัพไทยตรงขึ้นเหนือเพื่อรบกับจีน!

ทำไมไทยได้รบกีบจีน ? เพราะภูมิภาคแถบนี้พวกฝรั่งไม่ชำนาญการรบจึงทำได้อย่างมาก คือ ติดอาวุธให้ชนกลุ่มน้อยที่นับถือคริสต์ให้สู้กับญี่ปุ่น ส่วนตัวกองทัพหลักถอยไปสมทบกันที่อินเดีย หลังญี่ปุ่นตีเมืองย่างกุ้งแตกอย่างรวดเร็ว พวกอังกฤษจึงส่งเมืองต่อให้จีน โดยกองพลที่ 93 และกองพลที่ 96 ต้องเข้ามาควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในรัฐฉานต่อจากอังกฤษ









เหตุการณ์ต่อไปนี้มาจากหนังสือเรื่อง ”ทหารเหลือใช้สงคราม” และจากปากคำ พระอธิการใหญ่ประจำเชียงตุง อายุ 86 ปี ในวันที่ 31/1/53









25 มกราคม 2485 ไทยประกาศสงครามกับพันธมิตร โดยอังกฤษรีบประกาศสงครามตอบกลับ แต่ประเทศอื่นๆกลับมีท่าทีไม่ตอบสนอง เพราะทราบว่าไทยกระทำเช่นนี้จากการถูกบังคับซึ่งเป็นสถานการณ์เดียวกับฮังการีที่ถูกเยอรมันบังคับ

9 มีนาคม 2485 ญี่ปุ่นยึดย่างกุ้งได้ ทหารอังกฤษถอนตัวจากพม่าในวันที่ 9 พฤษภาคม 2485 ทหารไทยรุกข้ามชายแดนไทย–พม่า และบุกอย่างต่อเนื่องไปจนถึง เมืองสิบสองปันนาของจีน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจในความเก่งกาจของทหารไทยที่ไม่มีใครคิดจะพูดถึง เริ่มต้นทหารช่างต้องตัดถนนอย่างยากลำบาก(เส้นทางที่ทหารช่างไทยทำไว้กลายเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางจากท่าขี้เหล็กถึงเมืองลา ตราบจนทุกวันนี้)

กระนั้นยังไม่สามารถใช้รถในการลำเลียงได้เพราะเป็นหล่มโคลนมาก ต้องใช้ ม้า วัวควาย ในการลำเลียง แต่วัวควายกลับติดหล่มจนล้มตายไปจำนวนมาก เลยต้องมาใช้ช้างลำเลียง ตลอดเวลาที่ทหารไทยรุกเข้าไปต้องพบการต่อต้านจากทหารจีนอย่างหนัก เรารุกผ่านท่าขี้เหล็ก ดอยเหมย ไปถึงเชียงตุงได้ในวันที่ 4 มิถุนายน 2485

เมื่อกองทัพไทยมาถึงเชียงตุงตอนแรก ชาวบ้านต่างเผาบ้านเรือนหนีไปอยู่ป่าหมด เพราะคิดว่าเป็นทหารญี่ปุ่น พอรู้ว่าเป็นทหารไทยก็ตีฆ้องร้องป่าวตะโกนดีใจ และรีบต้อนรับอย่างดี หาอาหารให้กินตามมีตามเกิดเพราะทหารจีนเผาเชียงตุงไปเกือบหมดทั้งเมือง เหลือแค่ตึก 3 หลัง พร้อมปล้นอาหารชาวบ้าน ส่วนอาหารที่ขนไปไม่ได้ก็เผาทิ้งไม่เหลือ แถมยังทำลายกระทั่งครกตำข้าวของชาวบ้านจนหมด









วันรุ่งขึ้น 5 มิถุนายน 2485 ทหารไทยเดินขบวนเข้าเชียงตุงอย่างเป็นทางการ ชาวบ้านที่หนีเข้าป่าไปกลับมารอต้อนรับทหารไทย โดยมีดอกไม้และธูปมอบให้ทหารไทยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เจ้าบุญวาศ ณ เข็มรัฐ ผู้ครองนครเชียงตุง ได้ออกมาต้อนรับทหารไทยและทำพิธีส่งเมืองให้ จอมพล ผิน ชุนหวัน

ตลอดเวลาที่ทหารไทยเข้ามาในเมืองเชียงตุงไม่ได้มีปฏิกิริยาดีใจไชโย โห่ร้องอะไร นอกจากความสงสารที่มีแก่ชนเชื้อชาติเดียวกัน พูดภาษาเดียวกันนับถือศาสนาเดียวกัน คือ คนไทยใหญ่ต้องล้มตายจากสงคราม และซากเมืองที่พังพินาศ นอกจากนั้นทหารไทยยังอ่อนล้าจากการสู้รบและโรคระบาด โดยเฉพาะมาลาเรียที่ทหาร 25% ต้องหมดสภาพในการสู้รบจากการติดเชื้อ เพื่อปล่อยข่าวลวง จอมพล ผิน ชุนหวัน ต้องประกาศว่ากองกำลังญี่ปุ่นจะมาสมทบอีกเร็วๆนี้ เพราะรู้กันว่า ทหารจีนกลัวทหารญี่ปุ่นและ ดูเหมือนได้ผล...









ทหารจีนถอยร่นไปเรื่อยๆทหารไทยตามตีอย่างไม่ลดละ สิ่งที่ยากลำบากกว่าการสู้รบ คือ การเดินทางที่ยากลำบากทหารจีนระเบิดสะพานทุกแห่งเพื่อสกัดการติดตาม แต่การสร้างสะพานขึ้นมาใหม่กลับลำบากยิ่งกว่า เพราะฐานสะพานที่อ่อนแอลง ทำให้ทหารช่างหลายคนต้องเสียชีวิตและพลัดตกลงไปในเหวและแม่น้ำ เวลาพักผ่อนของทหารก็ไม่เต็มที่เนื่องจากถูกรบกวนจาก ยุง ริ้น เลือด ไร









เมื่อทำการบุกต่อเนื่องจนสามารถครอบครองรัฐฉานได้ทั้งหมด ในเดือน มกราคม 2486 ไทยได้สถาปนาดินแดนแห่งนี้ใหม่ว่า สหรัฐไทยใหญ่ ธงไตรรงค์ของเราโบกสะบัดอยู่ที่เชียงตุงนาน 3 ปี เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดอันแสนสั้นที่เราคนไทยใหญ่ได้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีก ก่อนจะต้องแยกจากกันตราบจนทุกวันนี้




ขอบคุณ orthodox.exteen.com

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


20 เคล็ดลับ เรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดี


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาอังกฤษสำคัญมาก เพราะเป็นภาษาสากลที่ผู้คนทั้งโลกใช้สื่อสารกัน ดังนั้นน้องๆคนไหนที่อยากเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดี ลองอ่านบทความนี้แล้วนำไปปฎิบัติตาม
ถ้าน้องๆทำได้รับรองภาษาอังกฤษของน้องจะดีขึ้นอีกเยอะ ^-^
1.ความเกี่ยวเนื่อง : ถ้าคุณจัดคำศัพท์ออกเป็นหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน ระหว่างศัพท์แล้วเขียนออกมาเป็นแผนผังจะทำให้คุณจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น
2.เขียน : การ นำคำศัพท์นั้นมาใช้จะทำให้คุณจำได้ฝังใจยิ่งขึ้น ลองเขียนแต่งประโยคโดยนำศัพท์ใหม่ที่เรียนนั้นมาประกอบหรือแต่งเรื่องโดยใช้ กลุ่มคำศัพท์หรือสำนวนที่เรียนอยู่
3.วาดรูป : ดึงวิญญาณศิลปินในตัวคุณออกมาใช้ โดยการวาดรูปที่แสดงถึงศัพท์ที่คุณเรียนอยู่ ภาพที่คุณวาดจะช่วยกระตุ้นความทรงจำถึงศัพท์นั้นในอนาคต
4.แสดง : แสดงท่าทางประกอบคำศัพท์หรือสำนวนที่คุณกำลังเรียนอยู่ หรือจินตนาการว่าคุณจะแสดงออกอย่างไรในสถานการณ์ที่คุณต้องใช้ศัพท์คำนั้น
5.สร้าง : ออก แบบ flashcards ศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมความหมายแล้วเปิดอ่านหรือท่องในยามว่าง ทำเล่มใหม่ขึ้นทุกอาทิตย์และอย่าลืมทบทวนอันเก่าไปพร้อมๆ กันด้วย
6.ความสัมพันธ์: กำหนดแต่ละสีให้แต่ละคำศัพท์ ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่จะช่วยให้คุณจำศัพท์นั้นได้แม่นขึ้นเมื่อนึกถึงคำนั้นในคราวต่อไป
7.ฟัง : นึกถึงศัพท์คำอื่นที่ออกเสียงคล้ายๆ กับคำศัพท์ใหม่ที่พยายามเรียนอยู่ ใช้ความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ในการช่วยให้คุณจำการออกเสียงของคำใหม่นั้น
8.เลือก : จำไว้ว่าการเรียนในหัวข้อที่คุณชอบหรือสนใจจะทำให้คุณรู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ฉะนั้นคุณควรใส่ใจในการเลือกคำศัพท์ที่คุณคิดว่ามีประโยชน์หรือน่าสนใจ เพราะแม้แต่กระบวนการเลือกคำที่จะเรียนก็มีผลให้คุณจำได้แม่นและเร็วขึ้น ด้วยเช่นกัน!
9.ข้อจำกัด : คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะจำศัพท์ที่มีอยู่ในดิกชันนารี่ทั้ง หมดได้ในวันเดียว เพราะฉะนั้นจำกัดการเรียนศัพท์ใหม่แค่วันละ 15 คำก็พอแล้ว ซึ่งถ้าพยายามจำให้มากคำเกินไปกว่านี้แทนที่มันจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจกลับ จะทำให้คุณสมองตื้อแทน
10.สังเกต : พยายามสังเกตหาคำศัพท์ที่คุณกำลังเรียนอยู่เมื่ออ่านหรือฟังภาษาอังกฤษ
11.ยอมรับความจริง : ไม่ มีใครพูดภาษาที่สองได้ตั้งแต่เกิด ทุกคนต้องใช้เวลาในการเรียนรู้กันทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าคาดหวังว่าจะต้องเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น
12.เรียนรู้ทีละนิด : จาก การศึกษาพบว่า การทบทวนเป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างเช่น ในระหว่างทานอาหารเช้า ในขณะอาบน้ำ หรือในขณะเดินทาง จะส่งผลให้คุณจดจำได้ดีกว่า
13.ท่องศัพท์ : ยิ่ง คุณรู้ศัพท์มากเท่าไหร่ คุณก็สามารถพูดและเข้าใจได้มากขึ้นเท่านั้น เทคนิคในการจดจำคำศัพท์ คือ พกการ์ดใบเล็กๆที่เขียนคำศัพท์ (ที่มีคำแปลอยู่ด้านหลัง) ไปกับคุณทุกที่
14.ฝึกหัดอย่างจริงจัง : อย่าแค่ทำปากขมุบขมิบหรือท่องเอาไว้ใสใจ พูดหรืออ่านออกมาดังๆ ในทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อจะได้ฝึกปากของคุณให้เคยชินกับการออกเสียง
15.ทำการบ้าน : การทำการบ้านคือการฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาให้เป็นไปอย่างแม่นยำ จนกลายเป็ความชำนาญ และสามารถทำออกมาได้อย่างอัตโนมัติในที่สุด
16. จับกลุ่มเรียน : หา เวลาทบทวน ทำการบ้าน หรือแค่ฝึกพูดภาษานั้นๆ กับเพื่อนๆ เป็นประจำ ซึ่งจะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องให้กันและกันได้ แถมยังทำคุณจดจำได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย
17.หาจุดอ่อน : คุณควรหาจุดอ่อนในการเรียนของตัวเองให้เจอ เพื่อที่จะได้เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนเงียบๆ และไม่ค่อยมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ก็บังคับตัวเองให้เลือกที่นั่งแถวหน้าในห้องเรียนซะ
18.หาโอกาสในการใช้ภาษา : เพื่อ สร้างความคุ้นเคยกับภาษานั้นๆ ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับเจ้าของภาษาเช่าหนังที่พูดภาษานั้นๆ มาดูหรือแม้กระทั่งหาแฟนที่เป็นเจ้าของภาษานั้นซะเลย
19. ทุ่มความสนใจ : พูด ง่ายๆ ก็คือ หายใจเข้าออกก็ให้เป็นภาษานั้น เรียนรู้ภาษานั้นๆ ทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างจริงจังและเต็มที่ถึงขนาดถึงขนาดถ้าฝันได้ก็อาจ ฝันเป็นภาษานั้นๆ ด้วย
20. ปรึกษาผู้รู้ : ถ้ามีปัญหาหรือติดขัดอะไร ก็ต้องสอบถามครูผู้สอนหรือเจ้าของภาษานั้นทันที เพื่อทำลายกำแพงที่เป็นอุปสรรคในการเรียนออกไปให้เร็วที่สุด คุณจะได้ไม่ต้องสะดุดอยู่นานเกินไปซึ่งนั้นอาจทำให้คุณเกิดความเบื่อหน่ายได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : trickenglish.blogspot.com
ภาพประกอบจาก : photos.com

  เป็นที่จับตามองกันอย่างมากสำหรับรถซิตี้คาร์รุ่นใหม่จากค่ายรถยนต์ Chevrolet  ที่ใกล้คลอดเต็มแก่รับตลาดครึ่งปีหลัง และล่าสุด ค่ายรถยนต์โบว์ไทน์ ก็พร้อมแล้วสำหรับสเป็คว่าที่ซิตี้คาร์ เชฟโรเล็ต โซนิคใหม่
                บริษัท เชฟโรเล็ต เซลล์ ประเทศไทย จำกัด เปิดราคาว่าที่รถยนต์ซิตี้คาร์ใหม่  Chevrolet Sonic  เวอร์ช่ะนโฉมลงตลาดไทย แบ่งจำหน่าย 8 รุ่นย่อย จาก 2 ถัง ได้แก่ รุ่น นอทช์แบ็ค หรือ 4 ประตู และ แฮทช์แบ็ค หรือ 5 ประตู โดยแต่ละรุ่นมีการแบ่งการตบแต่งเป็น 3 ระดับ และมีให้เลือกทั้งเกียร์ ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีด
Chevrolet Sonic
          นาย  อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากผลการสำรวจตลาดของเรา พบว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรานั้นให้ความสำคัญกับ 'ปัจเจกนิยม' หรือความโดดเด่นแตกต่างของแต่ละบุคคล"
 "โซนิค มีเป้าหมายอยู่ที่ลูกค้าหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ เป็นกลุ่มคนที่ติดตามแฟชั่น รักความสนุก และชื่นชอบการเข้าสังคมด้วยความกระตือรือร้น"
Chevrolet Sonic
ทั้งนี้  Chevrolet Sonic ใหม่ จะมาพร้อเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้กำลัง 100 แรงม้า ให้กำลังแรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตร   รองรับเชื้อเพลิงเอทานอล E20 ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งโซนิคถือเป็นรถรุ่นแรกในระดับนี้ที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบทอร์กคอนเวอร์เตอร์ 6 สปีด
อย่างไรก็ดี  ถึงแม้ว่าโซนิค จะออกมาแทนที่อาวีโอ แต่เชฟโรเลต ก็ยังคงจำหน่ายอาวีโอ ซีเอ็นจี ยานยนต์พลังงานทางเลือกให้ลูกค้าต่อไป โดยราคาจำหน่ายของรถยนต์  Chevrolet Sonic นั้นสามารถ ดูตามได้ราคาจำหน่ายทางด้านล่าง (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร) และ สามารถ โหลด สเป็คไปอ่านได้ที่นี่ ... โหลด สเป็ค Chevrolet sonic          

ราคาจำหน่าย  Chevrolet Sonic 1.4
เชฟโรเลต โซนิค
ราคาจำหน่าย
Chevrolet Sonic  4  ประตู 1.4 5MT LS
548,000
Chevrolet Sonic  4  ประตู 1.4 6AT LS
578,000
Chevrolet Sonic  4  ประตู 1.4 5MT LT
588,000
Chevrolet Sonic  4  ประตู 1.4 6AT LT
615,000
Chevrolet Sonic  4  ประตู 1.4 6AT LTZ
679,000
Chevrolet Sonic  5  ประตู 1.4 5MT LT
601,000
Chevrolet Sonic  5  ประตู 1.4 6AT LT
632,000
Chevrolet Sonic  5  ประตู 1.4 6AT LTZ
687,000





กระทรวงศึกษาธิการประกาศเลื่อนการส่งมอบเครื่องแท็บเล็ต ป.1 ล็อตแรก กว่า 40,000 เครื่อง ให้พื้นที่เขตการศึกษาต่าง ๆ อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากยังไม่ได้รับมอบเครื่องจากกระทรวงไอซีที ล่าสุดผลตรวจสอบคุณภาพด้านเทคนิค พบว่า มีตัวเครื่องแท็บเล็ต ป.1 ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่พอดีกับจำนวนที่กระทรวงไอซีทีกำหนดให้มีเครื่องเสียหายตามมาตรฐานได้ไม่เกิน 7 เครื่อง
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอซีที ระบุว่า ยังไม่รับทราบสรุปผลการสุ่มตรวจเครื่องแท็บเล็ต ป. 1 ล็อตแรก 60,000 เครื่องต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์พอดี ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุภัณฑ์ของไอซีทีเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากมีมาตรฐานการตรวจรับอยู่แล้ว
มีรายงานว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพแท็บเล็ต ป.1 ที่เจ้าหน้าที่บริษัท ทีโอที เข้ามาช่วยกระทรวงไอซีทีสุ่มตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิคเครื่องแท็บเล็ต 500 เครื่อง จากจำนวนที่ได้รับมอบล็อตแรกรวม 59,000 เครื่อง พบว่า มี 7 เครื่องคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น หน้าจอ มีระบบสัมผัส หรือ ทัชสกรีนช้า และ หน้าจอเกิดปัญหาติด ๆ ดับ ๆ
สำหรับข้อกำหนดมาตรฐานตามที่ ทีโออาร์ ระบุไว้ คือ การสุ่มตรวจจะสามารถมีเครื่องเสียได้ไม่เกิน 7 เครื่อง หากมากกว่านั้น กระทรวงไอซีทีมีสิทธิ์ส่งคืนเครื่องแท็บเล็ตทั้ง 60,000 เครื่องในล็อตแรกให้กับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป เพื่อนำไปปรับปรุง
และเป็นที่น่าสังเกตว่าการสุ่มตรวจครั้งนี้ ใช้เวลาเพียง 2 วัน คือ วันที่ 11 ก.ค. และ 12 ก.ค. เท่านั้น จากกำหนดเดิมที่ต้องใช้เวลา 5 วัน และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งรายงานสรุปผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการตรวจรับตังแต่วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตั้งข้อสังเกตว่า การร่นเวลาสุ่มตรวจสอบเครื่องจะส่งผลให้เกิดโอกาสที่เครื่องที่ไม่มีคุณภาพจะหลุดรอดไปถึงมือเด็ก ๆ ได้ง่ายขึ้น และหากเร่งรัดการแจกเครื่องแท็บเล็ต โดยไม่มีการตรวจแบบเข้มงวดจะส่งผลให้เกิดปัญหาค่าใช้จ่ายเพิ่มตามมาโดยเฉพาะการซ่อมบำรุง
โดยกระทรวงศึกษาธิการแจ้งเลื่อนส่งมอบเครื่องแท็บเล็ตล็อตแรก 45,000 เครื่องออกไปไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะส่งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ( 16 ก.ค.) ในจังหวัด กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น กำแพงเพชร และ กรุงเทพมหานคร

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


Google,กูเกิ้ล
 นิตยสารฟอร์จูน ทำการจัดอันดับ บริษัทที่น่าทำงานมากที่สุด โดยกูเกิ้ล Google ขึ้นมาผงาดเป็นอันดับ 1 ของปีนี้ได้ หลังจากครองที่ 4 ในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เหตุผลที่ กูเกิ้ลขึ้นเป็นอันดับ 1 ของบริษัทที่น่าทำงานที่สุด มาจากผลประกอบการของปีที่แล้วดีขึ้น ทั้งกำไร จำนวนคนคลิก
ขณะที่ตัวพนักงานมีความเคารพวัฒนธรรมองค์กร เคารพในเนื้องานที่ทำ การมีมุมพักผ่อน เช่น ลานโบว์ลิ่ง สนามเปตอง ร้านอาหารกว่า 25 ร้าน ภายในบริษัท นั่นหมายถึงพนักงานได้รับความสะดวกสบายในระหว่างการทำงานราวกับเป็นคนในครองครัว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กูเกิ้ลได้แชมป์ไปครอง
สำหรับ 10 อันดับ บริษัทที่น่าทำงานมากที่สุด ประจำปี 2012 คือ
1. Google
2. Boston Consulting Group
3. SAS Institute
4. Wegmans Food Markets
5. Edward Jones
6. NetAPP
7. Camden Property Trust
8. Recreational Equipment (REI)
9. CHG Healthcare Services
10. Quicken Loans

Hotmail โดน block แก้ยังไง ? ทําไม hotmail ถูกบล็อก ?hotmail ถูกบล็อก ทําไม hotmail เข้าไม่ได้ ?

นี่คงเป็นปัญหาสำหรับหลายๆคนในตอนนี้ บางคนใช้อีเมล์นี้มานานมาก มีรายชื่อผู้ติดต่อที่สำคัญๆเต็มไปหมดจะทำอย่างไรดี
ประมาณวันที่ 20 กันยายน ทีมงาน Windows Live ได้เริ่มต้นขั้นตอนการป้องกันอีเมลสแปม โดยส่งอีเมลแจ้งให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านและทำงานร่วมกับเจ้าของอีเมลที่โดนเจาะข้อมูลเพื่อคืนสิทธิการใช้งานที่ถูกต้องให้แก่ผู้ใช้งานที่ได้ รับผลกระทบ การกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อต้องการกำจัดอีเมลสแปมที่ก่อปัญหาให้แก่ผู้ใช้ บริการอีเมลของ Hotmail เพราะหลายท่านยังไม่ทราบว่าอีเมลของตนเองโดนคุกคามแล้ว  เราได้ประกาศแจ้งเกี่ยวกับมาตรการข้างต้นนี้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน นี้เวลา 10:00 ที่ http://Microsoftontheissues.com
Hotmail โดน block มีอีเมลที่ได้รับผลกระทบในจำนวนไม่เกิน 1% ของจำนวนผู้ใช้ Hotmail ทั้งหมดทั่วโลก(ซึ่งก็เยอะพอสมควร) ทำให้เกิดการเข้าสู่ Hotmail โดยใช้รหัสผ่านเดิมไม่ได้  หลายคนถอดใจสมัครอีเมลใหม่เลยก็มี แต่เดี๋ยวก่อน…เรามีวิธีแก้

การกู้อีเมล์ Hotmail ที่ถูก block คืน ให้ทำตามนี้

  •  เข้าอินเตอร์เน็ต ตามนี้  https://windowslivehelp.com/PasswordReset.aspx
  • อ่านรายละเอียด แล้วกด “ปุ่มดำเนินการต่อ” เพื่อดำเนินการต่อ ( มี 2 Page )
  • พิมพ์อีเมล์ที่ต้องการกู้คืน  แล้วกด “ปุ่มดำเนินการต่อ”
  • จะมีคำถามให้กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณ (เพื่อยืนยันว่าคุณคือเจ้าของอีเมล์จริงๆ)  พยายามตอบให้ได้มากที่สุด  เช่น
    • ชื่อเต็ม  (ต้องเป็นชื่อที่คุณใช้สมัครอีเมล์ : เพราะมีหลายท่านไม่ใช้ชื่อจริง)
    • วันเดือนปีเกิด
    • IP Adress ของเครื่องที่คุณใช้งานอีเมล์นั้นเป็นประจำ
    • อีเมล์สำรอง  (ต้องมีอีเมล์อื่นที่คุณสามารถใช้ได้ในตอนนี้  Hotmail จะติดต่อคุณผ่านอีเมล์นี้)
    • วันล่าสุดที่คุณเข้าใช้อีเมล์ได้
    • ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่คุณใช้
    • ชื่อของโฟลเดอร์ที่คุณสร้างไว้
    • ชื่อของรายชื่อในสมุดที่คุณบันทึกไว้  (สามารถบอกชื่ออีเมล์ต่างๆ ที่คุณบันทึกไว้)
    • เรื่องของจดหมายเก่าๆ ที่อยู่ในกล่องจดหมายของคุณ
    • ชื่อที่ใช้ในการติดต่อ MSN
    • ในกรณีที่ผู้ใดซื้อบริการพิเศษเพิ่มเติมจากการให้ บริการของ Hotmail  จะมี ให้กรอกวันหมดอายุของบัตรเครดิตที่คุณเคยใช้ จ่ายเงินให้Hotmail  หรือ เลขท้าย 4 ตัวของบัตร

  • เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว  จะมีหน้าบอกรหัส(พิน) ต้องจำเลขรหัสให้ดี  เพราะจะบอกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
  • ไปที่ห้องสนทนากับHotmail ที่  https://windowslivehelp.com/LiveIDTempAuth.aspx?id=98ee8e85-17b9-4940-ac22-d7224b1de20a
  • เข้าไปแล้วจะพบห้องสนทนา  สามารถพิมพ์รายละเอียดเพิ่มเติม  (สิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่าคุณเป็นเจ้าของเมล์  เช่น มีอัลบั้มรูปชื่ออะไรบ้าง    สร้างกรุ้ปเมล์อะไรไว้บ้าง)
  • รอเจ้าหน้าที่ Hotmail ตอบ (ภายใน 24 ชม.)  เราสามารถเข้ามาตรวจคำตอบของเจ้าหน้าที่ด้วยวิธี ตามขั้นตอนที่ 6 คือ เข้าไปในห้องสนทนา ด้วยรหัส(พิน) ที่เคยได้รับ  (ดังนั้นต้องจำพิน ตามขั้นตอนที่ 5 ให้ได้)
พอลองเข้าเมล์  ก็จะมีแจ้งว่ากรุณาเปลี่ยนรหัสใหม่ เราก็พิมพ์รหัสใหม่ตามต้องการ  พิมพ์รหัสยืนย้ำซ้ำอีกครั้ง  ก็จะกลับไปที่หน้าล๊อกอินเข้าเมล์เหมือนเดิม  คราวนี้เข้าอีเมล์ด้วยรหัสใหม่
ทำตามนี้รับรอง แก้ Hotmail โดน block ได้เมลคืนแน่นอน